วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

การโพสซิ่งให้ได้ดี


     การเพาะกายเพื่อให้กล้ามเนื้อพัฒนา และมีการเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์และได้ผลเร็ว จำเป็นต้อง อาศัยการโพสท่าของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ หรือที่เราเรียกกันว่า เบ่งกล้ามนั้น  นับได้ว่าเป็นส่วนสำคัญ ต่อการพัฒนากล้ามเนื้อทีเดียว โดยเฉพาะ นักเพาะกายที่ประสงค์ จะเข้าทำการประกวด เพื่อหยิบตำแหน่งอันมีเกียรติ มาไว้ในครอบครอง การโพสซิ่งเป็นหัวใจของการประกวด อย่างที่ท่านจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย
     หลังจากที่ท่านได้ผ่านการฝึก และพัฒนากล้ามเนื้อของคุณมาอย่างหนัก หรือที่เรียกว่า ถึงขั้นพอที่จะขึ้นเวที เพื่อประกวด เป็นชายงามกับเขาได้แล้ว คุณต้องถามตัวเองว่า คุณโพสซิ่ง (POSTING) เป็นหรือยัง ถ้าคุณโพสซิ่งยังไม่เป็น นั่นหมายความว่าคุณ ก็ยังไม่สามารถที่จะหยิบตำแหน่งใดๆ ในการประกวดมาครอบครอง ได้อย่างแน่นอน เพราะการแพ้ชนะ อยู่ที่การโพสซิ่ง เหมือนกันนะครับ เมื่อคุณทราบเช่นนี้ คุณก็จำเป็นที่จะต้อง รีบลงมือทำการฝึกฝนอย่างจริงจัง ตั้งแต่บัดนี้
     เพราะถ้าคุณโพสซิ่งไม่เป็นละก็ ต่อให้คุณมีมัดกล้าม ใหญ่โตสมส่วนขนาดไหน คุณก็ไม่ประสบความสำเร็จ กับตำแหน่งชายงามอันทรงเกียรติ ที่คุณใฝ่ฝันและหมายปองมัน โดยเฉพาะการโพสซิ่งท่าบังคับทั้ง 7 ท่า เพราะถ้าคุณโพสซิ่งท่าบังคับทั้ง 7 ท่าไม่ได้ หรือไม่ได้ดีพอ แม้แต่อันดับ 1 ใน 10 คุณก็อย่าหวังว่าจะได้ติดกับเขาเลย แล้วอย่างนี้ คุณมองเห็นความสำคัญของการโพสซิ่งหรือยัง แฟนๆชาวดงลูกเหล็กที่รักของผมทั้งหลาย เริ่มหันมาสนใจกับ การโพสซิ่งกันเสียแต่บัดนี้เถอะ เพื่อคณะกรรมการผู้ตัดสิน จะได้ไม่ถูกด่าว่าไม่ยุติธรรม หรือลำเอียง อันเกิดจากสาเหตุ เนื่องจากนักเพาะกายโพสซิ่งไม่เป็น หรือไม่เข้าท่า จนกรรมการผู้ตัดสินต้องถูกด่าอยู่เป็นประจำ 
     การโพสซิ่งนั้นถือได้ว่า มันเป็นคนละเรื่องกับการเพาะกาย เพราะการเพาะกาย หรือบริหารร่างกายนั้น ใครๆก็สามารถ ฝึกฝนได้ในสถานบริหาร และโรงยิมที่มีอยู่มากมายในบ้านเรา แต่การโพสซิ่ง ซึ่งเป็นการแสดงความสามารถ ในการบังคับกล้ามเนื้อ ด้วยลีลา และความสามารถเฉพาะตัว ที่นักเพาะกาย จะต้องแสดงออกบนเวที ให้ผู้ชม และคณะกรรมการตัดสิน มองเห็นความสามารถ ของนักเพาะกายที่บังคับกล้ามเนื้อ ให้เห็นอย่างชัดเจนด้วย ท่วงท่า ลีลา อย่างมีศิลปะ ต่อเนื่อง และกลมกลืน ดังนั้นนักเพาะกาย จึงจำเป็นที่จะต้องรู้จัก วิธีการ และหลักการในการโพสซิ่งเป็นอย่างดี รวมทั้งต้องหมั่นฝึกฝน อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความชำนาญอย่างแท้จริง เพื่อจะได้ สร้างความประทับใจ ให้กับผู้เข้าชมการประกวดของท่าน
     ถ้าพูดถึงการโพสซิ่งแล้ว คนส่วนใหญ่ในวงการเพาะกาย จะต้องนึกถึง ราชาโพสซิ่ง แอรอน  เบเกอร์ (ARRON BAKER) เพราะเขาคือ ยอดชายงามผิวดำคนหนึ่ง ที่ถือได้ว่ามีความชำนาญ และเชี่ยวชาญ ในการโพสซิ่งที่สุด แม้ในอดีตนั้น เขาคือนักฟุตบอล และนักมวยปล้ำ แต่เมื่อเขา หันมาสนใจการเพาะกาย ด้วยลีลาและความสามารถ ในการโพสซิ่งของเขา ได้สร้างความประทับใจ เหนือกว่าแดนเซอร์ หรือหางเครื่อง ที่ว่าเต้นเก่งๆเสียอีก เขาเคยให้ความเห็น เกี่ยวกับการโพสซิ่งว่า "การโพสซิ่งนั้น ก็คือ การสร้างความประทับใจ ให้กับผู้เข้าชมการประกวดนั่นเอง" ดังนั้นถ้าคุณต้องการชัยชนะ คุณอย่ามองข้ามการโพสซิ่ง เป็นอันขาดทีเดียว 
เคล็ดลับ
     1.การสร้างความประทับใจในครั้งแรกนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญเป็นที่สุด ที่จะทำให้คุณแพ้หรือชนะก็ได้ ดังนั้นร่างกายของคุณ จะต้องสมบูรณ์ แข็งแกร่ง ให้ถึงที่สุด 
     2.จงเปลี่ยนท่าใหม่ทันที เมื่อคุณเริ่มจะตื่นๆ หรือ เงอะๆงะๆ
     3.เลือกท่าโพสใหม่ที่ทำแล้วดูว่า คุณดูดีขึ้นหรือมั่นใจ (เป็นท่าที่คุณเลือก หรือคิดขึ้นมาเอง ไม่จำเป็นต้องเป็นท่าบังคับ) แล้วคุณค่อยกลับมา ทำท่าบังคับเมื่อคุณสบายใจ หรือพร้อมแล้ว เพราะท่าบังคับนั้น เขาบังคับให้คุณต้องทำให้ครบ
     4.สีหน้าจะต้องเป็นธรรมชาติที่สุด และการเปลี่ยนท่าต้องเป็นไป อย่างต่อเนื่อง ไม่สะดุดหรือติดขัดแต่อย่างใด 
     5.ตั้งสมาธิก่อนที่คุณ จะขึ้นเวทีการประกวด หรือการโชว์จะได้ช่วยให้ไม่ตื่นเวที
     6.เลือกเพลงที่คุณชอบ และชำนาญ
     7.ลีลาการโพสท่า ต้องเคลื่อนไหว ไปตามจังหวะของเสียงเพลง (ซึ่งต้องประกอบไปด้วยท่าต่างๆ อย่างต่อเนื่องกัน) และจะต้อง สามารถสื่อความหมาย หรือบอกเรื่องราวให้กับผู้ชมได้รู้ด้วย
     8.แสดงออกอย่างเต็มที่ ถึงความแข็งแกร่ง บึกบึนและสมบูรณ์ที่คุณมีอยู่ ด้วยการพยายาม เกร็งกล้ามเนื้อทุกส่วน เมื่อเวลาอยู่บนเวที 
     9.เกร็งกล้ามเนื้อส่วนที่ต้องการโชว์อย่างเต็มที่ จนกระทั่งเห็นเส้นเลือด ปูดขึ้นมาอย่างชัดเจน
   10.โพสท่าแต่ละท่า อย่างมีพละกำลัง เพื่อให้ผู้ชมประทับใจมากที่สุด
   11.อย่าทำผิดกติกา หรือทำในสิ่งที่กรรมการไม่อนุญาต
   12.รักษาเวลาอย่างเคร่งครัด เพราะการโพสซิ่งที่ดี และประทับใจนั้น ใช้เวลาแค่สั้นๆก็พอ ไม่จำเป็นต้องโพสนานๆ เพราะอาจเกิดการผิดพลาดได้ทุกเวลา
ท่าบังคับของการประกวดชายงาม
     แอรอน บอกว่า คุณจะชนะหรือแพ้นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสิน ของคณะกรรมการเป็นสำคัญ และคะแนนในการตัดสินเบื้องต้น ก็อยู่ที่ท่าบังคับเสียด้วย เพราะเหตุนี้ นักเพาะกายจึงจำเป็นต้อง หมั่นฝึกฝนการโพสซิ่งท่าบังคับทั้ง 7 ท่า ให้เกิดความชำนาญเสียก่อน
1.ท่าแสดงกล้ามเนื้อ ไบเซบด้านหน้าทั้งสองข้าง (FRONT DOUBLE BICEPS)
     ท่านี้นอกจากเป็นการโชว์กล้ามเนื้อไบเซบโดยตรงแล้ว ยังสามารถ โชว์กล้ามเนื้อ ที่อยู่ด้านหน้าของลำตัวได้ทุกชั้น หรือทุกมัดอีกด้วย วิธีการโพสท่านี้ ก็คือ ยืนอย่างสบายๆ และรักษาการทรงตัวไว้ให้ดี ด้วยการเหยียดขาข้างหนึ่งไปด้านข้าง พร้อมกับยกส้นเท้าขึ้น แต่ให้ปลายเท้าแตะอยู่กับพื้น รวมทั้งเกร็งกล้ามเนื้อขา แขม่วและเกร็งกล้ามท้องไว้ด้วย ต่อจากนั้น ก็งอข้อศอกทั้งสองข้าง พร้อมทั้งกำหมัด แล้วยกแขนทั้งสองข้างขึ้น จนกระทั่งข้อศอกทั้งสองข้าง อยู่เหนือระดับหัวไหล่เล็กน้อย พร้อมๆกันนั้น ก็เบ่งกล้ามเนื้อไบเซบ รวมทั้งกล้ามเนื้อปีกไปด้วยพร้อมกัน  ส่วนสายตานั้น ก็ให้มองตรงไปข้างหน้า แล้วอย่าลืมว่า ต้องยิ้มเล็กน้อย
2.ท่าแสดงกล้ามเนื้อปีกด้านหน้า (FRONT LAT SPREAD)
     ท่านี้เป็นการโชว์ความกว้างของปีก หรือสีข้างด้านหน้า ทีค่อยๆเรียงลงไปหาเอวที่คอด ส่วนวิธีการโพสนั้น ให้ยืนโดยใช้เท้าข้างหนึ่ง ค่อนไปทางด้านหน้าเล็กน้อย แล้วเกร็งต้นขาและกล้ามท้องไว้ด้วย จากนั้นให้งอข้อศอกขึ้นทั้งสองข้าง พร้อมทั้งยกมือทั้งสองข้าง ขึ้นมาแตะที่ส่วนล่าง ตรงบริเวณใต้ชายโครง (เหมือนกับการเท้าสะเอว) ด้วยนิ้วโป้งหัวแม่มือ และนิ้วชี้ แล้วตามด้วยการกำหมัด จากนั้นเลื่อนมือทั้งสองข้าง ผ่านเอวมาอยู่ในตำแหน่ง ที่บริเวณด้านหน้าใต้ชายโครง ตามแบบรูปข้างบน พร้อมกับบังคับ และเบ่งกล้ามปีก นอกจากนั้นนักเพาะกาย ต้องกางข้อศอก และยกไหล่ขึ้นด้วย ส่วนสีหน้านั้นควรทำสีหน้าให้ขรึมไว้ครับ
3.ท่าแสดงกล้ามเนื้ออกด้านข้าง (SIDE CHEST)
     การให้คะแนนอกงามของกรรมการ จะดูความนูนหนาของอกจากท่านี้ สำหรับวิธีการโพสท่านี้ก็คือ ยืนเท้าชิด แล้วหันด้านข้างของลำตัว เข้าหากรรมการและผู้ชม แล้วเท้าข้างที่หันนิ้วก้อย เข้าหากรรมการหรือผู้ชมนั้น นักเพาะกายจะต้อง ยกส้นเท้าขึ้น พร้อมทั้งงอเข่า และเกร็งต้นขาไว้ด้วย ต่อจากนั้น ก็สูดลมหายใจเข้าปอดอย่างเต็มที่ แล้วบิดลำตัว บริเวณช่วงเอว เพื่อหันหน้าอก โชว์กรรมการและผู้ชม ขณะเดียวกัน นักเพาะกายก็ต้องเอียง หรือหย่อนหัวไหล่ ข้างที่หันเข้าหากรรมการ และผู้ชมลงด้วย พร้อมกันนี้ก็ให้งอแขน ข้างที่อยู่ทางด้านกรรมการหรือผู้ชม (กำหมัดไว้ด้วย) จากนั้นก็คว่ำฝ่ามือของแขนอีกข้างหนึ่ง แล้วจับข้อมือของแขนที่งอขึ้นมา และกำหมัดอยู่ แล้วออกแรงกดข้อมือนี้ด้วย ส่วนแผ่นหลังนั้น ให้นักเพาะกายแอ่นเล็กน้อย แล้วอย่าลืมยิ้ม ในขณะที่โพสท่านี้อยู่
4.ท่าแสดงกล้ามเนื้อไบเซบด้านหลัง (REAR DOUBLE BICEPS)
     ท่านี้ให้นักเพาะกาย หันหลังให้กรรมการหรือผู้ชม แล้วเหยียดขาด้านหนึ่งออกไป พร้อมกับยกส้นเท้าขึ้น  และต้อง งอเข่าเล็กน้อยด้วย จากนั้นก็ทำท่า เหมือนท่าที่ 1 ทุกอย่าง เพียงแต่เป็นการหันหลัง ให้กับกรรมการและผู้ชมเท่านั้น คุณจึงจำเป็นต้อง เกร็งกล้ามเนื้อหลัง ส่วนบนและส่วนล่าง ตลอดจนกล้ามก้น และกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง (hamstring) รวมทั้งน่องด้วย เรียกว่า เป็นการโชว์กล้ามเนื้อด้านหลังทั้งหมด ส่วนท่าที่ 1 เป็นการโชว์กล้ามเนื้อด้านหน้าทั้งหมด
5.ท่าแสดงกล้ามเนื้อปีกหรือสีข้างด้านหลัง (REAR LAT SPREAD)
     ท่านี้เริ่มต้นยืนหันหลัง เหมือนท่าที่ 4 ส่วนขั้นตอนต่างๆ ทำเหมือนท่าที่ 2 ทุกอย่าง เพราะท่าที่ 2 เป็นการโชว์ด้านหน้า ส่วนท่าที่ 5 เป็นการโชว์ด้านหลัง (นักเพาะกายต้องไม่ลืมยกหัวไหล่ขึ้น และเหยียดแผ่นหลังให้ตรงด้วย)
6.ท่าแสดงกล้ามเนื้อไทรเซบ (SIDE TRICEPS)
     ท่านี้ออกจะโพสยากสักหน่อย โดยเริ่มต้นจาก การยืนเหมือนกับท่าที่ 3 แต่แขนข้างที่หันเข้าหากรรมการหรือผู้ชมนั้น ให้ปล่อยลงจนสุด และแนบข้างลำตัวไว้ จากนั้น ก็เอาฝ่ามือของแขนอีกข้างหนึ่ง จับข้อมือของแขน ด้านที่หันเข้าหากรรมการหรือผู้ชม (ซึ่งแขนข้างนี้จะกำหมัดและงอขึ้น) แล้วบังคับหรือเบ่งกล้ามเนื้อไทรเซบ  คุณต้องทดลอง งอข้อศอกเล็กน้อย ในหลายๆมุม หลายๆองศา เพื่อดูว่าแบบไหน ที่ทำให้กล้ามเนื้อไทรเซบของคุณ ดูดีที่สุดด้วย ส่วนกล้ามเนื้ออื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นกล้ามท้อง กล้ามขา หน้าอก หรือหัวไหล่ คุณจะต้องเกร็งไว้ด้วยเสมอ
7.ท่าแสดงกล้ามท้องและต้นขา (ABDOMINALS AND THIGHS)
     วิธียืนท่านี้ ยืนเหมือนท่าที่ 2 แล้วยกส้นเท้า ของเท้าที่ก้าวออกมาข้างหน้าขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็เบ่ง หรือบังคับกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า (quadricep) เพื่อโชว์ความบึกบึน และแข็งแกร่ง ของกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้าก่อน  จากนั้น ก็งอข้อศอก แล้วยกมือทั้งสองข้าง ขึ้นมาแนบกับด้านหลังศีรษะ (ขณะเดียวกันต้องกำหมัด และเบ่งหรือบังคับกล้ามเนื้อไบเซบด้วย) โดยให้ข้อศอกทั้งสองข้างนั้น อยู่ชิดกับด้านข้างของศีรษะมากที่สุด ดูตามรูปข้างบน แล้วจึงค่อยๆ งอลำตัวช่วงบน ไปข้างหน้าเล็กน้อย ติดตามด้วย การเอียงลำตัวลงไปทางด้านซ้ายที และด้านขวาที เพื่อโชว์กล้ามท้องทุกมัดที่มีอยู่
     ทั้ง 7 ท่าบังคับนี้ นักเพาะกายที่มีความปรารถนา จะหยิบตำแหน่งอันมีเกียรติมาครอบครอง จำเป็นต้องทำ หรือที่เรียกกันว่า โพสซิ่งให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และชำนาญ อันจะเป็นหนทาง หรือบันไดแห่งการหวนหา เกียรติยศและชื่อเสียงในตำแหน่งชายงาม และยอดชายงามในทศวรรษหน้านี้ 
   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น